ย้อนกลับไปมีนาคมปี 2015 ทางเชฟโรเลต ประเทศไทย ประกาศแผนธุรกิจ เลิกทำรถยนต์ขนาดเล็ก มุ่งหน้าพัฒนารถกระบะและรถอเนกประสงค์ ประกาศแยกทาง อีซูซุ พาร์ทเนอร์ที่ร่วมพัฒนารถกระบะกันมา เราจึงได้เห็นการพัฒนาของกระบะ Chevrolet Colorado ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ มีความแตกต่างและพรีเมียมมากขึ้น
เหมือนกันผิดตรงไหน ? ก็นั้นสินะ เมื่อ Chevrolet Colorado ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี การทำพาร์ทใหม่มันย่อมมีค่าต้นทุน ทำให้แข่งขันด้านราคาได้ยาก และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ยกพาร์ทภายในมาจาก Colorado รวมไปถึงยังใช้ตัวถังเดิม ที่มองจากด้านข้างและด้านหลังไม่มีอะไรเปลี่ยนจากรุ่นที่แล้ว
แต่หากเทียบกับรุ่นที่แล้ว Chevrolet Trailblazer 2017 ปรับเยอะ พอสมควร
รูปลักษณ์ภายนอก
- กระจังหน้าใหม่
- ชุดไฟหน้าใหม่ พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวันแบบแอลอีดี
- แผงกันชนหน้าใหม่
- ฝากระโปรงใหม่
- ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 18 นิ้ว
- สีตัวถังใหม่ (สีขาว Abalone, สีแดง Pull Me Over Red, สีดำ Black Meet Kettle)
รูปลักษณ์ภายใน
- คอนโซลกลางและแผงคอนโซลหน้าใหม่
- มาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่พร้อมภาษาไทย
- ปรับตำแหน่งของสวิทช์เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน
- ออกแบบและจัดวางห้องโดยสารใหม่ ให้เหมาะกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น
- ตกแต่งแผงข้างประตูใหม่
- ภายในห้องโดยสารมีความประณีตหรูหรามากขึ้น
เครื่องยนต์ เหลือให้เลือกเพียงบล็อกเดียว
- เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันเ ให้กำลัง 180 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม ช่วงล่าง และความเงียบแก่ห้องโดยสาร อาทิ
- ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องยนต์แท่นเกียร์และยางรองตัวถังใหม่ เพื่อลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน
- ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า
- มีฟังก์ชั่นรีโมท สตาร์ท ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจ
- กระจกหน้าต่างคู่หน้าจะเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายยิ่งขึ้น
- ติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงเพื่อลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนแก่ห้องโดยสาร
ด้านออปชั่นความปลอดภัย
- คานกันกระแทกด้านข้าง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้าพร้อมถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก(ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน (PBA)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลทั้งขณะออกตัวและในโค้ง (TCS)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA)
- ระบบรักษาเสถียรภาพขณะลากจูง (Trailer Sway Control)
- ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Anti-Rolling Protection)
การทดสอบครั้งนี้ระยะประมาณ 349 กม. วิ่งจากสุวรรณภูมิ แวะพักทานอาหาร ที่จันทบุรีและต่อเรือไปที่พักบนเกาะช้าง ซึ่งสภาพอากาศเจอทั้งแดดและฝนตกหนัก รวมไปถึงเส้นทางเรียบ ทางคดเคี้ยว ขึ้นลงเขาบนเกาะช้าง ก็เป็นการทดสอบ Chevrolet Trailblazer 2017 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ด้านการขับ ยกความดีของ Colorado มาพูดได้เลย เรื่องความเงียบภายในห้องโดยสารที่ดีมาก เบาทั้งเสียงเครื่องยนต์และเสียงลมจากภายนอก ซึ่งทางเจนเนอรัล มอเตอร์ส ตั้งใจทำให้เป็นห้องโดยสารที่นิ่งเงียบที่สุด เมื่อขับเพลิน ๆ จะไม่เชื่อเลยว่าเข็มไมล์แตะอยู่ราว ๆ 140 กม./ชม.
ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายทั้งด้านหน้าและหลัง มีเฮดรูมและพื้นที่บริเวณเข่าเหลือ ๆ ไม่อึดอัด เบาหลังสามารถ เอนเพิ่มความสบายได้ โดยที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ ส่วนที่นั่งอื่น ๆ ปรับมือ ช่องแอร์อยู่บนเพดาน มีทั้งที่หนังแถวสอง และแถวสาม สามารถปรับระดับแอร์เองได้
มีที่ชาร์จไฟสำหรับที่นั่งโดยสารแถวสอง
การควบคุม พวงมาลัยใหม่ระบบไฟฟ้า (EPS) ก็ไม่ต่างจากตัวกระบะ โดยรวมถือว่าใช้ได้ มีการคืนตัวเป็นธรรมชาติ ถ้าไม่บอกว่าเป็นพวงมาลัยไฟฟ้า เชื่อว่าหลายคงเข้าใจว่าเป็นไฮดรอลิคแน่ ๆ ก็นั้นแหละครับส่วนตัวคิดว่าในช่วงความเร็วต่ำยังสามารถปรับให้ทดแรงได้มากกว่านี้อีก เมื่อใช้ความเร็วสูงมั่นคงดี พวงมาลัยเฟิร์มขึ้นขับได้อย่างมั่นใจ มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือพวงมาลัยไม่สามารถปรับเข้า-ออกได้
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ดูราแม็กซ์ XLDE25 LP2 ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร กำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ก็รับมือไหวกับตัวรถที่หนัก 2,142 กก. ในช่วงเร่งแซง ก็ทำได้สบาย ๆ ไม่มีปัญหา หรือแม้กระทั้งช่วงขึ้นเขาบนเกาะช้าง
แน่นอนว่าหลาย ๆ อย่างทำได้ดีเหมือน Colorado ข้อเสียก็เหมือนกันด้วย !! คือช่วงที่รถรอวิ่ง ตัวรถสะท้าน แต่ดูเหมือนอาการนี้จะน้อยกว่าเล็กน้อย แต่คอนเฟิร์มว่ามีเหมือนเดิม.. ส่วนปัญหาคอนโซลหน้าบางจุดมีเหลี่ยมคม ใน Chevrolet Trailblazer 2017 ถูกแก้เรียบร้อย
ระบบอินโฟเทนเมนต์ 8 นิ้วรองรับ Apple CarPlay ใครที่ใช้ไอโฟนย่อมเข้าใจดี เพราะใช้ Siri ที่รองรับภาษาไทย เป็นระบบสั่งการด้วยเสียงที่ทั่วโลกยอมรับ ของดีที่อาจใช้ต่อเนื่องในอีกหลายรุ่น
คุณภาพของกล้องมองหลัง สภาพอากาศฝนตก ยังใช้งานได้ดีอยู่
สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือช่วงล่างของ Chevrolet Trailblazer 2017 ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส ด้านหลังเป็น 5-Link Rear Suspension พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส ตลอดระยะทางกว่า 349 กม. ทั้งขับและโดยสาร รู้สึกว่ารถการเซตทำมาให้เพื่อนุ่มสบาย ยามวิ่งปรกติหรือใช้ความเร็วทำได้ดี แต่ช่วงคอสะพานมีอาการยุบตัวและรีบาวน์ของโช้คมากไป การโยนตัวมีพอประมาณ ถือว่าช่วงล่างไม่ได้โดดเด่นอะไร และตลอดการวิ่งก็ไม่ได้ทำให้คนขับรู้สึกเหนื่อย ผู้โดยสารตอนหลังมีตึง ๆ บ้าง อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ของเล่นดี ๆ อย่างระบบสตาร์ทเครื่องยนต์จากรีโมท กระจกลง-ขึ้นอัตโนมัติเมื่อเปิดประตูรถพร้อม ก็ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรกที่มี แถมดูเหมาะมากกว่ากระบะด้วยซ้ำ เพราะนี้เป็นรถสำหรับครอบครัวและการโดยสาร
โดยจบทริปนี้วิ่งระยะทางรวม 763.5 กม. ได้ค่าสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 9.4 กม. ลิตร เป็นเกณฑ์ที่ดี โดยตัวรถแบกน้ำหนักผู้ทดสอบ ขาไป 3 คนที่น้ำหนักรวมกัน 190. กก. และขากลับ 4 คนที่ 250 กก. แถมยังมีการเร่งแซงที่เค้นพลังออกมาเต็มที่
สรุปส่วนตัวจากผู้เขียน
Chevrolet Trailblazer 2017 ได้รับความดีงาม ด้านวิศวกรรมมาจาก Colorado เต็ม ๆ หากวิ่งในเมืองเหมาะกับช่วงล่างที่เซ็ตมานุ่ม ๆ แต่ด้วยการใช้ตัวถังเดิม แถมเป็นรถอเนกประสงค์ทำให้รถดูไม่สดใหม่เอามาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านหลัง ที่ไม่มีการปรับอะไรเลย
ออปชั่นลูกเล่น สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท ดูเหมาะมากกับรถอเนกประสงค์และเป็นเพียงรุ่นเดียวในตอนนี้ที่มี..
เพราะอะไร Chevrolet Trailblazer 2017 ถึงน่าสนใจ พวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS) การบังคับง่ายขึ้นคุณผู้หญิงไม่น่ามีปัญหา ด้านดีไซน์ดูรวม ๆ ก็เป็นสไตล์อเมริกัน ที่บึกบันแข็งแรงดี ทั้งภายนอกและภายใน เครื่องยนต์ 2.5 ให้สมรรถนะเหลือใช้ ดีไซน์ภายในดูเข้มลงตัว และสุดท้ายคงเป็นราคาจำหน่าย ที่ทำให้ Chevrolet Trailblazer 2017 ดูน่าสนใจจริง ๆ กับออปชั่นขนาดนี้
- The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LT 1,244,000 บาท
- The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LTZ 1,379,000 บาท
- The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X4 AT LTZ 1,479,000 บาท ** รุ่นที่ใช้ทดสอบ
ข้อมูลเฉพาะ Chevrolet Trailblazer 2017