เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2559 มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จับมือมาสด้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ยานยนต์ที่แนวทางแตกต่าง เตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเดินทางด้วยรูปแบบคาราวานเพื่อพิสูจน์สมรรถนะรถมาสด้ากับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่น บนเส้นทางสายอารยธรรมอาเซียนกับกิจกรรม Mazda Skyactiv Asean Caravan
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า มาสด้ากำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคแห่งนี้ โดยวางเป้าหมายการจำหน่ายภายในปี 2020 หรือในอีก 4 ปี ข้างหน้า ประมาณ 150,000 คัน กลุ่มประเทศอาเซียน คือ ภูมิภาคที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจของมาสด้า เนื่องจากประกอบด้วยประเทศที่กำลังเติบโตมีศักยภาพสูง และเป็นที่จับตามองอย่างยิ่งในเวทีโลก ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 600 ล้านคน และเป็นภูมิภาคที่มีการเติบทางด้านเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ทิศทางการเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดมาสด้าลงหลักปักฐานในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้อย่างยั่งยืน ทั้งในด้านเงินลงทุนมูลค่ามหาศาล เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานผลิตเครื่องยนต์ โรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติ ในประเทศไทย และโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศมาเลเซียและเวียดนาม รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสนับสนุนการจำหน่ายรถยนต์ทั้งในประเทศ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ พม่า ลาว กัมพูชา และบรูไน
กิจกรรม Mazda Skyactiv Asean Caravan ด้วยการเดินทางแบบคาราวานครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ เพื่อเชื่อมโยงอารยธรรมของสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ASEAN ECONOMIC COMMUNITY เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม การเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่หลากหลาย ส่งเสริมการท่องเที่ยว และหลอมรวมให้สมาชิกเป็นหนึ่งเดียวกัน
Mazda Skyactiv Asean Caravan จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม 2559 เพื่อพิสูจน์สมรรถนะรถมาสด้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ประกอบด้วยรถยนต์ มาสด้า 2 (Mazda 2), มาสด้า 3 (Mazda 3), มาสด้า ซี-เอ็กซ์ 3 (Mazda CX-3 ) และมาสด้า ซี-เอ็กซ์ 5 (Mazda CX-5)
พิธีการปล่อยคาราวานสกายแอคทีฟครั้งประวัติศาสตร์จัดขึ้น ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครพนม ผ่านแขวงคำม่วน ของประเทศลาว เข้าสู่เมืองวินห์ ฮานอย-ฮอยอัน-นาตรัง-โฮจิมิน ประเทศเวียดนาม
ผ่านเข้าสู่ประเทศกัมพูชา และกลับสู่ประเทศไทยทางจังหวัดตราด รวมเป็นเวลา 9 วัน กับเส้นทางสุดท้าทายกว่า 4,000 กิโลเมตร พร้อมเยี่ยมชมสถานที่อันเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของแต่ละประเทศ โดยมีผู้ร่วมเดินทางเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในครั้งนี้กว่า 140 คน จาก 5 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์
การเดินทางในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของวงการยานยนต์ไทย ที่ได้รับการตอบรับจากประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนในการเข้าร่วมพิสูจน์สมรรถนะของรถมาสด้าในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่มาสด้าได้โอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดประตูประเทศในการต้อนรับประเทศสมาชิก และเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้นำร่องการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มตัว พร้อมทั้งเรียนรู้อารยะธรรมแต่ละประเทศ และเผยแพร่อารยธรรมไทยให้แก่สมาชิก โดยมีรถมาสด้าจากประเทศไทยเป็นพาหนะนำไปสู่เส้นทางแห่งประวัติศาสตร์