นับตั้งแต่ปี 1972 ท่ามกลางฝุ่นที่ฟุ้งตลบบนสนามทางเรียบวงรี (Oval Flat Track) ความยาวระยะ 1 ไมล์ ซึ่งปกติจะเอาไว้ใช้แข่งม้าแต่พอช่วงพักฤดูกาลก็จะมีการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ขึ้นโดย AMA Grand National Championship รถมอเตอร์ไซค์วิบาก Harley-Davidson XR-750 (ในอเมริกาเรียกว่าฮาร์ลีย์-เดวิดสัน แต่คนไทยนิยมเรียก ฮาร์เล่ย์) ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่สำหรับการแข่งขันในครั้งนั้นก็สามารถวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้ทันทีจนกลายเป็นตำนานโด่งดังมานานจนถึงปัจจุบันซึ่งก็ปาเข้าไป 44 ปีแล้ว Harley-Davidson เลยส่งทายาทคันใหม่ล่าสุด Harley-Davidson XG750R เข้ามาสานต่อตำนานความสำเร็จจากอดีตกันเสียที
โดย Harley-Davidson XG750R จะใช้เครื่องยนต์หัวฉีด Revolution X แบบ V-Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 750 ซี.ซี. ที่ให้แรงบิดประมาณ 60 นิวตันเมตร จาก Harley-Davidson Street 750 และนำมาปรับแต่งใหม่บนเรซซิ่งเฟรมโดยฝีมือของพาร์ทเนอร์อย่าง Vance & Hines Motorsport ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่น ๆ ของ XG750R นั้นยังไม่มีการเปิดเผยจาก Harley-Davidson มากนัก
นายคริส ชูโนเวอร์ (Kris Schoonover) ผู้จัดการทีมแข่งของ Harley-Davidson ได้กล่าวว่า “หลังจากความสำเร็จหลายทศวรรษที่ผ่านมาของ Harley-Davidson XR-750 เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องพัฒนารถแข่งรุ่นใหม่สำหรับใช้ในการแข่งขัน” และ Harley-Davidson XG750R จะขับขี่โดยนักแข่งดาวรุ่งหน้าใหม่ที่มีอายุเพียง 18 ปี อย่าง เดวิส ฟิชเชอร์ (Davis Fisher) ในการแข่งขัน AMA Pro Flat Track GNC 1 ในปีนี้ หลังจากที่ได้รับชัยชนะใน AMA Pro Flat Track GNC 2 เมื่อปีที่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ที่ยังถือว่าเป็นการพัฒนา Harley-Davidson XG750R ใหม่สำหรับการแข่งขันที่อาจยังต้องมีการปรับปรุงอีกพอสมควร ทีม Harley-Davidson Screamin’ Eagle จะยังส่งแชมป์ GNC ปี 2013 อย่าง เบรด เบเกอร์ (Brad Bager) พร้อมกับ Harley-Davidson XR-750 ในตำนานลงสนามควบคู่กันไปด้วย
สำหรับผลการแข่งขันสำหรับสนามแรกของ Harley-Davidson XG750R ที่ขี่โดย Davis Fisher นั้นก็ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 8 ในขณะที่ XR-750 ครองอันดับ 3 บนโพเดียม