ความคิดสร้างสรรค์และงานศิลป์ขายได้เสมอหากมันโดนใจพอและ Impuls ซึ่งตั้งตนเป็นผู้สร้างมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงหรือที่เรียกว่าแนวคัสตอม (มาจากคำว่า Customize) แห่งมิวนิก ประเทศเยอรมนีก็แสดงให้เห็นแล้วว่าจริง
Impuls เป็นบริษัทที่รับดัดแปลงมอเตอร์ไซค์หน้าใหม่และยังไม่ได้ใหญ่โตมากนัก จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อนาย Philipp Wulk อาชีพทนายความรวมถึงนักถ่ายภาพต้องการแค่ดัดแปลง BMW R65 ของตนเองไว้สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีเหตุให้เปลี่ยนใจนำ BMW K100 มาทำจนกลายมาเป็น BMW K100 IMPULS K101 ในที่สุด
อันที่จริง Philipp เองคิดว่า BMW K100 ก็เหมาะสมแต่ติดตรงส่วนท้ายรถที่เขาไม่ค่อยปลื้มนักเนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนกับไฮยีน่า ซึ่ง Philipp อยากได้สไตล์ที่ลู่ลมต่อเนื่องมากกว่าและในขณะนั้นเองเพื่อนสนิทอย่าง Matthias Pittner ก็โผล่มาพร้อมเบียร์จำนวนหนึ่งแล้วหลังจากนั้นไอเดียของทั้งคู่เริ่มพรั่งพรูออกมาราวกับว่าแอลกอฮอล์ถูกดูดซึมเข้าไปเลี้ยงสมอง
Philipp รีบพา Matthias ซึ่งเป็นช่างฝีมืออีกทั้งยังเคยเป็นศิลปินแนวกราฟิตี้มาก่อน ตรงดิ่งไปยังโรงรถและเล่าความคิดของตนเองว่าจะเอาอย่างไรดี ถ้าใช้ BMW K100 กว่าจะออกมาอย่างที่ตั้งใจงบคงบานปลาย ซึ่ง Matthias เพื่อนสนิทที่แสนดีก็รับฟังอย่างเข้าใจก่อนฟันธงว่า “เอา K100 เนี่ยแหละเด็ดสุด” จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ลงมือจัดการกับซับเฟรมหลังและส่งเบาะหลังไปหุ้มหนังนูบัคที่ให้สัมผัสนุ่มคล้ายหนังกลับเป็นอันเรียบร้อยในขั้นตอนแรก
แต่เรื่องยังไม่จบตรงนี้เพราะยังเหลือส่วนงานตกแต่งตัวถังและรายละเอียดอื่นอีกมากเพื่อความคูลเลยอยากได้ศิลปินมาช่วยออกแบบแต่บังเอิญว่าทั้งคู่ต่างมีศิลปินที่รู้จักเป็นของตัวเองเลยจบปัญหาด้วยการแยกออกเป็น สองโปรเจคท์ สำหรับสองศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานกันอย่างอิสระโดยไม่บอกว่าอยากได้แนวทางไหนปล่อยให้สร้างสรรค์กันเต็มที่จนออกมาเป็นผลงาน 2 สไตล์
Fabian Gatermann ศิลปินคนแรกลงมือสร้างสรรค์งานตัวถังจากแนวคิดที่ย้อนไปถึงขั้นตอนต้น ๆ ของการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ด้วยโปรแกรม CAD จึงมีลายตารางทรงเรขาคณิตเหมือนกับที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่วนวงล้อหน้าเปลี่ยนมาใช้ของ BMW R100R ด้านหลังมาจาก R1150GS พ่นสีน้ำเงินตัดกับซี่ลวดสีดำ
ทางด้าน Matthias Edlinger ซึ่งเป็นศิลปินแนวคอลลาจ อาร์ต (ภาพปะติด) ได้นำเอาสไตล์ของตนเองมาใส่ลงบนตัวถังเป็นภาพสะท้อนความปรารถนาในจิตใจ ส่วนล้อ Edlinger ตั้งใจให้แตกต่างกันโดยล้อหน้าใช้แบบตรงรุ่นของ K100 แต่ล้อหลังเอามาจาก BMW K1100 ซึ่งลายต่างกันคล้ายสไตล์การปะติดและพ่นด้วยสีทองเหมือนกัน
นอกจากนี้ BMW K100 ยังถูกลดความสูงด้านหน้าลงมา 8 ซม. ในขณะที่ด้านหลังเปลี่ยนมาใช้โช้คอัพของ Wilbers เช่นเดียวกับเฟืองท้ายและชุดเกียร์รวมถึงสวิงอาร์มหลังยกมาจาก BMW K1100 เพื่อให้มีระยะล้อหลังที่ยาวออกไปอีก รวมถึงเปลี่ยนรายละเอียดในส่วนต่างๆ เช่น ระบบสตาร์ทมือ ไฟเลี้ยวแบบ LED เป็นต้น
ทางด้านเครื่องยนต์ยังเป็นของ BMW K100 ที่มีกำลัง 90 แรงม้า และแรงบิด 85.8 นิวตันเมตร แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุด เช่น ช่องดูดอากาศและฟิลเตอร์ใหม่จากเป็นของ K&N ท่อไอเสียตีขึ้นเองแบบแฮนด์เมดซึ่งส่งเสียงดังเกินที่กฎหมายของเยอรมนีกำหนดไปหน่อย (และจะต้องถูกเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่เงียบขึ้น) โดยในส่วนของเครื่องยนต์กลไกนี้จะถูกชุบอโนไดซ์สีดำทั้งหมด
เมื่อผลงานทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้ง Philipp และ Matthias เลยตัดสินใจตั้งเป็นบริษัทเพื่อขายผลงานในชื่อว่า Impuls โดย BMW K100 IMPULS K101 ต้นแบบทั้ง 2 คันซึ่งใช้ Rolling Chassis ของ BMW K100 ถูกนำไปโชว์ตัวที่ Lost Weekend Exhibition ในมิวนิก และมีลูกค้าสั่งจองเข้ามาแล้ว 3 คัน
เพียงแค่ไอเดียก็เปลี่ยนเป็นธุรกิจได้อย่างไม่น่าเชื่อแม้ลูกค้าจะไม่มากแต่แนวคัสตอมก็โดดเด่นและแตกต่างซึ่งน่าจะได้รับความนิยมในต่างประเทศพอสมควร
ภาพจาก Bikeexif, Impuls
