หลังจากที่ นาโนโฟลว์เซลล์ ควอนติโน (nanoFlowcell QUANTiNO) รถไฟฟ้าต้นแบบขนาดเล็กเทคโนโลยีล้ำที่เรียกว่าโฟลว์เซลล์ ได้ถูกเปิดตัวในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปีที่ผ่านมา โดยบริษัท nanoFlowcell AG ซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศเล็ก ๆ ของทวีปยุโรปกลางอย่างลิกเตนสไตน์นั้นกำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตแบบ Pre-Production ในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 เพื่อจำหน่ายจริงแล้ว
nanoFlowcell QUANTiNO เป็นรถไฟฟ้าแรงดันต่ำรุ่นแรกซึ่งใช้เทคโนโลยีแตกต่างจากรถไฟฟ้าทั่วไปรวมถึงรถพลังไฮโดรเจนหรือเซลล์เชื้อเพลิง (Fuelcell) เช่น Toyota Mirai หรือ Honda FCV
โดยเฉพาะจุดเด่นของ nanoFlowcell QUANTiNO ที่เคยเคลมไว้ว่ามีสมรรถนะระดับ 136 แรงม้า จากมอเตอร์ 4 ตัว ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กม./ชม. และพิสัยระยะการเดินทางได้ไกลกว่า 1,000 กม./การเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้งเลยทีเดียว
แต่ในรุ่น Pre-Production มีกำลังลดลงเหลือ 109 แรงม้า โดยไม่ได้ระบุตัวเลขอื่น ๆ มาให้ว่าแตกต่างจากที่เคยแจ้งไว้ช่วงเปิดตัวในฐานะรถต้นแบบหรือไม่
อย่างไรก็ตามความโดดเด่นที่หลายคนให้ความสนใจคือเทคโนโลยี Flowcell โดยอาศัยหลักการที่แตกต่างไปจากรถไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งจะคล้ายกับรถเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ที่ใช้ไฮโดรเจนมาผลิตกระแสไฟฟ้าแต่เปลี่ยนมาเป็นของเหลวที่เรียกว่า ไอออนิก ลิควิด (ionic liquids) หรือสารละลายไอออนิก (nanoFlowcell AG หมายถึงเกลือ)
โดยระบบของ Flow-cell จะประกอบด้วยถังบรรจุ ionic liquids ขนาด 175 ลิตร จำนวน 2 ถัง แยกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นประจุบวกและอีกฝั่งหนึ่งเป็นประจุลบ ที่มีท่อเชื่อมต่อกับส่วนตรงกลางเรียกว่า nanoFlowcell จะทำหน้าที่คล้าย Cell Stack ของระบบ Fuel Cell เพื่อเปลี่ยนพลังงานเคมีเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟให้กับมอเตอร์ทั้ง 4 ตัวสำหรับระบบขับเคลื่อน
นายนันซิโอ ลา เวคเคีย (Nunzio La Vecchia) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของ nanoFlowcell AG ได้เคยกล่าวไว้ว่า ในปัจจุบันระบบแรงดันไฟฟ้าต่ำนั้นมักนิยมใช้กับรถกอล์ฟ หรือ สกูตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งให้เอาท์พุตต่ำ (น้อยกว่า 5kW)
เท่าที่เรารู้ระบบขับเคลื่อนแรงดันไฟฟ้าต่ำยังไม่เคยถูกนำไปใช้ในรถยนต์เพื่อการโดยสารขนาดใหญ่เท่ากับ nanoFlowcell QUANTiNO เพราะเอาท์พุตที่ได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากระบบขับเคลื่อนจำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้าสูงและทั้งหมดนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยี nanoFlowcell ซึ่งเราสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าสูงได้ผ่านแรงดันที่มีอัตรากำหนดต่ำซึ่งเหมาะสมกับระบบแรงดันไฟฟ้าต่ำ
ส่วนปัญหาสำคัญคือการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างสถานีบริการเชื้อเพลิงอย่าง อิเล็กโทรไลต์ หรือ ไอออนิก ลิควิด (ionic liquids) เพื่อรองรับรถไฟฟ้าแบบโฟลว์เซลล์นั้น ทาง nanoFlowcell AG กล่าวว่าทำได้รวดเร็วเพราะไม่ใช่เรื่องยากซึ่งเปรียบได้กับช่วงที่มีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถติดตั้งจุดเติมเชื้อเพลิงส่วนตัวไว้ที่บ้านหรือตามจุดต่าง ๆ ที่สะดวกก็ได้
และด้วยพิสัยการเดินทางของรถที่วิ่งได้ไกลถึง 1,000 กม. จึงครอบคลุมพื้นที่ได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ ionic liquids ยังเป็นเชื้อเพลิงที่พร้อมมากในปัจจุบันอีกทั้งยังปลอดภัยเพราะไม่มีพิษและประกายไฟทำให้ง่ายต่อการขนส่ง กักเก็บเป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องมีระบบความปลอดภัยขั้นสูงด้วย
คงต้องรอดูกันต่อไปว่ารถพลังงานความหวังรูปแบบใดจะเข้ามาแทนที่รถยนต์เครื่องสันดาปภายในได้ในอนาคต เพราะถึงแม้ปัจจุบันจะมีรถไฟฟ้าแบบ Plug-In และรถพลังไฮโดรเจนจำหน่ายแล้วแต่ก็ยังเต็มไปด้วยข้อจำกัดหลายประการ แต่ตราบใดที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุดข้อจำกัดเหล่านั้นก็อาจไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ภาพจาก nanoflowcell
