เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 SAIC - Mortor CP และบริษัท MG เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดตัวรถยนต์ใหม่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีกับ ALL NEW MG 5 ปี 2016 ลงตลาดซับคอมแพกต์คาร์หรือรถกลุ่ม บี เซกเมนต์ (ในคลาสนี้ได้แก่ โตโยต้า วีออส, ฮอนด้า ซิตี้, ฟอร์ด เฟียสต้า, มาสด้า 2)
- ด้านสมรรถนะแรงสุดในรถคลาส กับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ ที่ให้กำลัง 125 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร พร้อมรองรับ E85
- ด้านดีไซน์ กับตัวถังสไตล์คูเป้รุ่นเดียวในคลาส
- ขนาดของตัวรถและความกว้างของห้องโดยสารมากที่สุดในคลาส แม้เป็นรถกลุ่ม บี เซกเมนต์ แต่ขนาดมิติรถใหญ่เทียบเท่ากลุ่ม ซี เซกเมนต์ สบาย ๆ
- ระบบเซฟตี้แบบแอ็คทีฟ มากถึง 9 อย่างพร้อมให้ตั้งแต่ในรุ่นย่อยเริ่มต้น
- เทคโนโลยี กับระบบ Inkanet ที่สื่อสารกับรถผ่านมือถือพร้อมฟีเจอร์เพียบ
เราลองมาย่อยรายละเอียดแต่ละจุดเด่นเริ่มต้นที่ ด้านดีไซน์กับตัวถังสไตล์คูเป้ ด้านหน้ามีการเดินเส้นสายเป็นรูปตัว V ที่ฝากระโปรง ชุดไฟหน้าโคมโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Lights (DRL)
มองไปที่ด้านท้ายสะดุดกับไฟท้าย ที่เดินเส้นยาวผ่านฝากระโปรงหลังจรดกัน หลังคาซันรูฟที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
MG 5 ปี 2016 มีมิติรถที่ใหญ่ กว้าง 1,804 มม. ยาว 4,612 มม. สูง 1,488 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. จึงส่งผลโดยตรงกับพื้นที่ภายในห้องโดยสาร แถมเบาะหลังยังพับได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยหรือบรรทุกของที่ยาว ๆ ได้สะดวก
ระบบอินโฟเทนเมนต์ เป็นหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว ใช้เป็นเนวิเกเตอร์ ต่อบลูทูธ กล้องมองขณะถอยหลัง และระบบ Inkanet
เราขอแยกความสามารถของ inkaNet ออกมาให้เข้าใจอย่างชัด ๆ ว่ามี 7 ฟังก์ชั่นหลัก ได้แก่
- ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนความผิดปกติ เมื่อมีการเคลื่อนหรือสตาร์ทรถยนต์
- ฟังก์ชั่นระบบนำทาง ผ่านทาง Google Map
- ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของรถ และข้อมูลสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์
- ฟังก์ชั่นระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับรถยนต์
- ฟังก์ชั่นแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทั้งแบบรายสัปดาห์และแบบรายเดือน
- ฟังก์ชั่นระบบเลขาฯ ส่วนตัว ให้คุณติดต่อ MG CALL CENTRE เพียงปลายนิ้วสัมผัส
- ฟังก์ชั่นวางแผนการเดินทาง
โดยสามารถเชื่อมต่อระบบ inkaNet ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือฟรีนาน 5 ปี
ด้านเครื่องยนต์ MG 5 ปี 2016 มี 2 รุ่นให้เลือกกับ เครื่องยนต์เบนซินรหัส I5S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลัง 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมโหมดสปอร์ต / โหมด Manual รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85
อีกรุ่นที่แรงขึ้นกับ เครื่องยนต์เบนซินรหัส I5S4G DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ ให้กำลัง 129 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,400 รอบต่อนาที (แรงบิดสูงสุดมาเต็มตั้งแต่รอบต่ำ) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดสปอร์ต / โหมด Manual รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85
ช่วงล่างแบบ European Tuning Suspension ด้านหน้าแบบ Ultra-Rigid MacPherson Strut ด้านหลังแบบ H-Type Torsion Beam คานขวางแบบ U-Shape ให้การยึดเกาะถนนและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม มั่นใจด้วยระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบ LDC (Low Dragging Calipers) ตอบสนองทุกการสั่งการอย่างเฉียบคม
และจุดเด่นสุดท้าย การอัดแน่นของระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบ 9 Integrated Active Safety Systems
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS - Hill Start Assist System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS - Traction Control System)
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS - Anti-lock Braking System)
- ระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD - Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR - Motor control Slide Retainer)
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (ITPMS - Indirect Tire Pressure Monitor System)
- ระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS - Stability Control System)
ที่ทาง MG ชูระบบความปลอดภัยมาเป็นจุดเด่นด้วย เพราะใน MG 5 ปี 2016 จะมีครบทั้ง 9 อย่างตั้งแต่ในรุ่นเริ่มต้นหรือราคาถูกสุด (649,000 บาท)
MG 5 ปี 2016 มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย พร้อมมีราคาช่วงแนะนำถึงสิ้นปีที่ลด 2 หมื่นบาท ดังนี้
MG 5 1.5L D เครื่องยนต์ธรรมดา 649,000 บาท (ราคาแนะนำ 629,000 บาท)
MG 5 1.5L X Sunroof เครื่องยนต์ธรรมดา 699,000 บาท (ราคาแนะนำ 679,000 บาท)
MG 5 1.5L D เครื่องยนต์เทอร์โบ 719,000 บาท (ราคาแนะนำ 699,000 บาท)
MG 5 1.5L X Sunroof เครื่องยนต์เทอร์โบ 759,000 บาท (ราคาแนะนำ 739,000 บาท)
สามารถเช็กอุปกรณ์รุ่นย่อย ได้จากตารางด้านล่าง
**คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่**
MG 5 ปี 2016 มีให้เลือกภายนอกทั้งหมด 5 สีได้แก่ สีเทา, สีแดง, สีดำ, สีเงิน และสีขาว ภายในมีให้เลือก 2 โทน สีดำและสีเบจ ทั้งนี้การรับประกัน นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร มีบริการเช็กระยะนอกสถานที่ (Mobility Services) เมื่อมีการโทรแจ้งนัดหมายและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre) ตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย
สุดท้ายนี้ทางผู้บริหาร MG ได้แจ้งด้วยว่า MG 5 ปี 2016 พร้อมจำหน่ายและส่งรถในทันที และราคาที่ตั้งไว้ก็ใช้ราคาเดิมหลังปรับภาษี หรือว่ากันง่าย ๆ ก็เสียราคาแนะนำไปครับ
