x close

ไม่อยากโดนยึดรถอ่านไว้ ผ่อนยังไงให้ไปรอด

ไม่อยากโดนยึดรถอ่านไว้ ผ่อนยังไงให้ไปรอด
 
           ปัจจุบัน \'รถยนต์\' ถือเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากครอบครอง เพราะจะได้ไม่ต้องทนรอรถเมล์ท่ามกลางแดดร้อน หรือคอยโบกแท็กซี่ให้โดนปฏิเสธอยู่ร่ำไป หลายคนคิดว่าการซื้อรถยนต์จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว \'รถยนต์\' ยังตามมาด้วยภาระทางการเงินอีกมากมายที่หลายคนอาจมองข้าม ทั้งค่างวดเอย ค่าประกันภัยเอย ไหนจะค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษาอีก ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจส่งผลให้คุณชักหน้าไม่ถึงหลังในแต่ละเดือนได้

           บทความนี้จะขอเสนอแนะทางรอดในการผ่อนรถแต่ละเดือน ช่วยให้สามารถส่งค่างวดได้ครบแบบสบายๆ ไม่เจอปัญหาถูกยึดรถตามมาภายหลัง

1. วินัยการเงินต้องเป๊ะ

           ถ้าคิดจะซื้อรถใหม่ซักคัน วินัยทางการเงินถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้สามารถผ่อนได้ตลอดรอดฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการซื้อแบบเงินผ่อน เนื่องจากค่างวดถือเป็นเงินก้อนโตที่ถูกหักออกไปจากรายรับในแต่ละเดือน ยิ่งถ้ามีรายรับเพียงทางเดียวแล้วล่ะก็ ต้องมั่นใจว่าเงินส่วนที่นำมาเป็นค่างวดรถนั้น จะไม่เบียดเบียนภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าไฟ, ค่าน้ำ, ค่าที่อยู่อาศัย, ค่าอาหาร ฯลฯ รวมไป \'ค่าน้ำมัน\' ที่จะต้องจ่ายอยู่เป็นประจำหลังจากซื้อรถมาแล้วอีกด้วย

2. เลือกรถให้เหมาะสมกับการใช้งาน

           แน่นอนว่าปัจจุบันมีรถให้เลือกหลายแบบหลากสไตล์ ทั้งรถอีโคคาร์, รถคอมแพ็คคาร์, รถกระบะ หรือรถเอสยูวี เป็นต้น ซึ่งผู้ที่คิดจะซื้อต้องดูความเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของเราเองด้วย เพราะรถแต่ละแบบก็มีระดับราคาต่างกันไป ทางที่ดีควรตรวจสอบค่างวดของรถแต่ละรุ่นที่เราสนใจ แล้วใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าสามารถจ่ายไหวหรือไม่ มากกว่าการใช้อารมณ์ในการเลือกรถที่มีราคาสูงกว่าโดยไม่จำเป็น

ไม่อยากโดนยึดรถอ่านไว้ ผ่อนยังไงให้ไปรอด

3. แต่งรถแต่พองาม

           บางครั้งเมื่อเราครอบครองรถสักคันหนึ่ง ก็อยากจะตกแต่งตัวรถให้สวยงามตามสไตล์ของเรามากขึ้น แต่นั่นก็หมายถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาโดยไม่จำเป็น หากเป็นการตกแต่งที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างการติดเซ็นเซอร์ถอยหลัง หรือการการขัด-เคลือบสีรถ ฯลฯ ก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่พอรับได้ แต่หากเป็นการแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงามทั่วๆไปแล้วล่ะก็ บางทีคุณอาจจะกันเงินส่วนนั้นไว้เป็นค่าใช้จ่ายยามจำเป็นเสียจะดีกว่า อย่างน้อยก็เอาไว้เป็นค่าเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ ที่จะสึกหรอไปตามการใช้งานนั่นเอง
 
4. ลองเก็บเงินให้ครบ 3 เดือน

           ข้อนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก รวมถึงยังบ่งบอกความสามารถในการชำระค่างวดของเราได้ด้วย โดยการทดลองเก็บเงินให้เท่ากับค่างวดรถยนต์ที่เราจะซื้อเป็นระยะเวลาทั้งหมด 3 เดือน หากเราสามารถเก็บเงินดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการนำออกไปใช้ในช่วง 3 เดือนนี้แล้วล่ะก็ ไชโย! คุณถือว่ามีความพร้อมในการซื้อรถยนต์แล้ว นอกจากนั้น เงินที่เก็บได้นี้ คุณยังสามารถนำไปใช้เพื่อโปะค่าดาวน์เพิ่ม หรือกันไว้ใช้เป็นค่างวดยามฉุกเฉินได้ถึง 3 งวด เรียกว่าปลอดภัยหายห่วงแบบยาวๆ

5. เช็ครายรับต่อเดือนให้แน่นอน


           เช็ครายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือนของเราให้ดี จากนั้นจึงคำนวณเงินที่เหลือในแต่ละเดือนว่ามีเท่าไหร่ แต่หากใครไม่อยากนั่งกดเครื่องคิดเลขให้สับสนวุ่นวาย ก็ลองใช้วิธีคำนวณสุดง่ายบนเว็บไซต์กรุงศรี มาร์เก็ตได้แล้ว เพราะมีตารางเฉลี่ยรายได้แบบชัดเจน ที่จะช่วยให้คุณสามารถคำนวณทั้งเงินดาวน์และเงินผ่อนได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว และสามารถเข้าไปชมวิธีการคำนวณเงินง่าย ๆ ได้ที่ ป๋าเดอะซีรีย์





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไม่อยากโดนยึดรถอ่านไว้ ผ่อนยังไงให้ไปรอด อัปเดตล่าสุด 25 พฤษภาคม 2558 เวลา 16:44:54 7,609 อ่าน
TOP