ผู้ใช้รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ทั้งการหันมาสวมหมวกนิรภัย รัดเข็มขัด และมองหารถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่มากกว่าเดิม แต่หลาย ๆ คนกลับมองข้ามเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือความปลอดภัยของเด็ก ๆ ที่ต้องร่วมโดยสารไปกับเรานั่นเอง ซึ่งที่จริงแล้ว เด็กตัวเล็ก ๆ เหล่านี้จะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า แม้จะเป็นการชนท้ายเล็ก ๆ แต่เด็กอาจถูกกระแทกจนบาดเจ็บกระดูกหักก็เป็นได้ ดังนั้น คนใช้รถที่มีบุตรหลานทั้งหลายจึงควรให้เด็ก ๆ โดยสารบนเบาะนั่งคาร์ซีตกันดีกว่า ซึ่งวันนี้ เราก็ขอนำเรื่องราวของเบาะนั่งคาร์ซีตมากฝากกันครับ
เบาะนั่งเด็กเป็นอย่างไร
เบาะนั่งเด็กหรือคาร์ซีต (Car Seat) เป็นเบาะนั่งเสริมในรถยนต์ซึ่งส่วนใหญ่ออกแบบเพื่อความปลอดภัยของเด็กโดยเฉพาะ แต่ละแบบจะรองรับเด็กในแต่ละช่วงอายุและน้ำหนักตัว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดหากเกิดอุบัติเหตุ ตัวเบาะสามารถยึดได้ทั้งกับเข็มขัดนิรภัยและหัวล็อก ISOFIX ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ปัจจุบัน โดยปัจจุบันเบาะมี 4 แบบ ดังนี้
แบบ Rear facing มีลักษณะเหมือนเปลแคปซูล เหมาะสำหรับเด็กทารกอายุไม่เกิน 1 ปี
แบบ Front facing เป็นเบาะแบบนั่งสำหรับเด็กเล็ก ให้เด็กนั่งตั้งหน้าตัวตรง ส่วนใหญ่ออกแบบเพื่อเด็กอายุ 1-4 ปี
แบบ Booster เบาะนั่งเสริมความสูงสำหรับเด็กอายุ 4-10 ปี
ทำไมต้องใช้เบาะนั่งเด็ก
คาร์ซีตออกแบบมาเพื่อรองรับร่างกายของเด็กแต่ละวัยเป็นการเฉพาะ จึงเหมาะกับสรีระของเด็กมากกว่าเบาะนั่งรถยนต์เดิมซึ่งออกแบบเพื่อผู้ใหญ่ เบาะนั่งเด็กยังช่วยป้องกันเด็กหลุดออกจากตัวรถหากเกิดอุบัติเหตุ และยังดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า ช่วยลดอาการบาดเจ็บได้มากทีเดียว
ติดตั้งเบาะนั่งเด็กตรงไหนดี
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการติดตั้งเบาะนั่งเด็กคือ เบาะหลังตำแหน่งตรงกลางและเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ผู้ขับขี่สามารถหันไปมองหาได้ง่าย และยังได้รับผลกระทบจาการชนน้อยกว่าโดยเฉพาะตำแหน่งเบาะหลังด้านกลาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารนั้นจะช่วยให้คุณสามารถอุ้มบุตรหลานขึ้นรถจากฝั่งฟุตบาทได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องจอดรถริมถนนบ่อย ๆ
ส่วนตำแหน่งที่ไม่แนะนำที่สุดคือด้านหน้าข้างผู้ขับขี่นั่นเอง เพราะเด็กจะได้รับบาดเจ็บจากถุงลมนิรภัยมากกว่าผู้ใหญ่ แม้จะง่ายต่อการจัดการดูแลก็ตาม ยิ่งถ้าเป็นเบาะนั่งแบบหันหลัง ยิ่งไม่ควรนำมาติดด้านหน้าเป็นอันขาด เพราะเด็กจะเจอแรงปะทะจากถุงลมเต็ม ๆ จนอาจพิการหรือเสียชีวิตได้เลย
ติดตั้งเบาะหันหน้าหรือหันหลัง อันไหนปลอดภัยกว่ากัน
เป็นที่ถกเถียงกันมากมายว่าประเภทของเบาะนั่งแบบใดมีความปลอดภัยมากกว่ากัน ซึ่งโดยหากดูเผิน ๆ แล้ว เบาะนั่งทั้งสองแบบนั้นไม่มีความแตกต่างกันเท่าใดนัก แต่อันที่จริงในกรณีของเด็กเล็กอายุไม่เกิน 4 ปี ส่วนใหญ่ หากจัดแบบหันหน้านั้นจะไม่มีการซับแรงเหวี่ยงในส่วนของหลัง เสี่ยงมากที่เด็กจะเกิดอาการกระดูกคอเคลื่อน หัวไหล่หลุด และหัวแตกจากการกระแทกไปมา แต่หากจัดให้หันหลัง ตัวเบาะนั่งจะซับแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเด็กได้ดีกว่า จึงสรุปได้ระดับหนึ่งว่า เบาะนั่งแบบหันหลังมีแนวโน้มจะปลอดภัยกว่านั่นเอง ส่วนเบาะนั่งของเด็กอายุเกิน 4 ปี มักจะมีฟังก์ชั่นและความแน่นหนาใกล้เคียงของผู้ใหญ่ ประกอบกับร่างกายเจริญเติบโตและแข็งแรงมากขึ้น จึงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใดกับเด็กเล็กครับ
ได้ทราบถึงประโยชน์และความสำคัญของเบาะนั่งคาร์ซีตสำหรับเด็กกันไปแล้ว ก็หวังว่าผู้ใช้รถทั้งหลายที่มีบุตรหลานวัยเด็กน่ารักกำลังซนจะหันมาใส่ใจกันมากขึ้นนะครับ เพราะชีวิตของคนที่คุณรักเองก็เป็นเรื่องสำคัญ การลงทุนเพียงเล็กน้อยในวันนี้ อาจช่วยให้เขาปลอดภัยมากกว่าในอนาคตที่ไม่แน่นอนก็ได้นะครับ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก britax